เท้าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เราไปไหนต่อไหนได้อย่างที่เราต้องการ อีกทั้งยังเป็นส่วนที่รับน้ำหนักอันมหาศาลอยู่ทุกวัน ดังนั้นหากเราดูแลเท้าได้ดี ก็จะยิ่งทำให้เราทำกิจกรรมและอะไรหลายๆ อย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลักการดูแลเท้าทำได้ดังนี้
สิ่งที่ควรปฏิบัติในการดูแลเท้าทุกวัน
1. ล้างเท้าให้สะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ
2. เช็ดเท้าให้แห้งทันที โดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า
3. ถ้าผิวแห้ง ทาครีมบางๆ ให้ทั่วทั้งหลังเท้าและฝ่าเท้า แต่ไม่ทาบริเวณซอกนิ้วเท้า เพราะอาจเกิดการหมักหมมเกิดกลิ่นเหม็นได้
4. ถ้าเล็บยาวตัดเล็บเท้าอย่างถูกวิธีโดยตัดตามแนวขอบเล็บเท่านั้น ไม่ตัดเล็บเซาะเข้าไปทางด้านข้างของเล็บ ซึ่งจะทำให้เล็บขบเกิดการอักเสบได้
5. ถ้าอากาศเย็นให้สวมถุงเท้านอน เพิ่มความอบอุ่น
6. ใส่รองเท้าตลอดเวลาแม้จะอยู่ในบ้านก็ตาม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและสัมผัสเชื้อโรคจากพื้น
7. ใส่รองเท้าที่เหมาะสมและถูกสุขลักษณะ
8. ออกกำลังเพื่อบริหารข้อเท้าและกล้ามเนื้อเท้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาสู่ปลายเท้า
การเลือกรองเท้าที่เหมาะสม
1. เลือกแบบที่ปลอดภัยกับเท้า
ปัจจุบันมีรองเท้าหลายแบบและหลายรูปทรงให้เลือก รองเท้าที่เหมาะสมไม่ควร มีตะเข็บแข็งอยู่ด้านในและไม่ควรเลือกแบบที่ใส่แล้วคับเกินไป หลวมเกินไป หรือมีส่วนของรองเท้ากดหรือเสียดสีกับเท้า และควรเลือกรองเท้าที่ทำจากวัสดุที่ดี รองรับสรีระเท้าได้ดี
2. เลือกแบบของรองเท้าที่เหมาะสมกับรูปเท้า
เลือกรูปทรงรองเท้าที่เหมาะสมและมีลักษณะใกล้เคียงกับรูปเท้าของเราก่อน แล้วจึงลองขนาดของรองเท้า
3. ไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนของขนาดรองเท้า
รองเท้าเบอร์เดียวกันจะมีขนาดต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ ดังนั้นจึงควรวัดขนาดเท้าเทียบกับขนาดรองเท้าให้เหมาะสม
4. วัดขนาดเท้าทั้งสองข้างก่อนเลือกซื้อรองเท้าเสมอ
เท้าคนเราเปลี่ยนแปลงได้ทั้งขนาดและรูปร่างในแต่ละช่วงอายุ ดังนั้นจึงควรวัดขนาดเท้าเทียบกับขนาดรองเท้าให้เหมาะสมก่อนเช่นกัน
5. ความยาวของรองเท้าที่เหมาะสม
ความยาวที่เหมาะสม คือ ใส่แล้วมีระยะระหว่างปลายนิ้วที่ยาวที่สุดกับปลายของรองเท้าเหลือประมาณ 3/8 – 1/2 นิ้วฟุต หรือเท่ากับขนาดความกว้างของนิ้วหัวแม่มือ
6. ความกว้างของรองเท้าที่เหมาะสม
ความกว้างที่เหมาะสม คือ ส่วนที่กว้างที่สุดภายในรองเท้าควรกว้างเท่ากับความกว้างที่สุดของเท้าและอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกัน
7. ส้นเท้าต้องอยู่พอดีกับส้นรองเท้า
ตำแหน่งของส้นเท้าควรอยู่กับตำแหน่งของส้นรองเท้าและมีความกระชับพอดี
8. ถ้าใส่วัสดุเสริมในรองเท้าต้องเปลี่ยนขนาดรองเท้าให้เหมาะสม
สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้วัสดุเสริมภายในรองเท้า เช่น แผ่นรองใต้ฝ่าเท้า วัสดุเหล่านี้ทำให้รองเท้าคับขึ้น ดังนั้นเวลาเลือกรองเท้าควรเพิ่มขนาดรองเท้าให้ใหญ่กว่าปกติประมาณ 1 เบอร์
9. เท้าเปลี่ยนขนาดได้ตามเวลาและชนิดของกิจกรรม
เท้าเปลี่ยนขนาดและรูปร่างได้ในแต่ละช่วงของวัน เท้ามักจะขยายหลังจากเดินมาก นั่งห้อยเท้านาน ๆ หรืออกกำลังกาย ดังนั้น ก่อนเลือกรองเท้าต้องคำนึงถึงเวลาและกิจกรรมที่จะนำไปใช้ให้สอดคล้องกันด้วย
การออกกำลังเพื่อบริหารข้อเท้าและกล้ามเนื้อเท้าโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนเลือดมาสู่ปลายเท้า
ท่าบริหารทำได้โดย
1. กระดกข้อเท้าขึ้นและลงสลับกันช้าๆ
2. หมุนข้อเท้า โดยหมุนเข้าและหมุนออกช้าๆ
3. ใช้นิ้วเท้าจิกผ้าที่วางอยู่บนพื้นเพื่อบริหารกล้ามเนื้อเล็กๆในเท้า
4. นั่ง ยกขาขึ้น เหยียดเข่าตึง แล้วกระดกข้อเท้าขึ้นค้างไว้นับ 1 – 6 ในใจถือเป็น 1 ยก ทำต่อเนื่องสัก 10 ยก
โดยควรบริหารเท้าให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ประมาณ 10-15 นาที เพื่อสุขภาพเท้าที่ดีของเรา
(บทความจาก คลินิกสุขภาพเท้า ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล)